Overview

ทำความรู้จักกับรูปแบบการคำนวณคะแนน

ทำความรู้จักกับรูปแบบการคำนวณคะแนนในระบบ Loyalty: Times, Step, และ Ratio

วันที่เผยแพร่ : 28 พฤศจิกายน 2567

 

      การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า คือ หัวใจสำคัญของธุรกิจในปัจจุบันซึ่งระบบ Loyalty Hub ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความจงรักภักดี (Loyalty) ให้กับลูกค้า

      โดยการให้คะแนน (Points) เป็นสิ่งจูงใจหลักที่ช่วยกระตุ้นการซื้อซ้ำหรือเพิ่มการใช้จ่ายจากลูกค้า ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ รูปแบบการคำนวณคะแนน ที่ใช้ในระบบ Loyalty ซึ่งมีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

1. Times

      รูปแบบการคำนวณคะแนนแบบ Times เป็นการให้คะแนนในลักษณะ "คงที่" ตามที่กำหนด โดยสมาชิกจะได้รับคะแนนในจำนวนเท่ากันทุกครั้งที่ทำรายการภายในช่วงวันที่กำหนด มีรายละเอียดการตั้งค่า ดังนี้

  • คะแนน: ระบุจำนวนคะแนนที่สมาชิกจะได้รับในแต่ละการทำรายการ

  • วันเริ่มต้น: กำหนดวันที่เริ่มต้นที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะเริ่มทำงาน

  • วันสิ้นสุด: กำหนดวันที่สิ้นสุดของระยะเวลาที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะทำงาน

  • สถานะ

    • Draft: เป็นสถานะที่ใช้สำหรับการตั้งค่าเบื้องต้นหรือการทดสอบ หากคุณตั้งโปรแกรมไว้ในสถานะนี้ ระบบจะไม่คำนวณคะแนนจริงสำหรับสมาชิก

    • Active: เป็นสถานะที่ใช้เมื่อคุณต้องการให้โปรแกรมคำนวณคะแนนจริง สมาชิกจะได้รับคะแนนตามที่กำหนดในช่วงวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุด

    • Inactive: ใช้เมื่อคุณต้องการหยุดการคำนวณคะแนนโดยสมบูรณ์แม้ในระหว่างที่โปรแกรมยังมีอยู่ ระบบจะไม่คำนวณหรือมอบคะแนนให้สมาชิกในสถานะนี้

l2-1

    

      ตัวอย่าง สมาชิกจะได้รับ 10 คะแนน ทุกครั้งที่ทำรายการ ในช่วงเวลาที่กำหนด: 1 เมษายน 2022 - 30 เมษายน 2022 ไม่ว่ารายการซื้อขายจะมียอดเท่าไร คะแนนที่ได้รับยังคงเป็น 10 คะแนนทุกครั้ง

 

2. Step

      รูปแบบการคำนวณคะแนนแบบ Step เป็นการให้คะแนนตาม "ขั้นบันได" โดยคะแนนจะถูกกำหนดตามยอดการใช้จ่าย ยิ่งยอดใช้จ่ายมากขึ้น คะแนนที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นตามขั้นที่กำหนด มีรายละเอียดการตั้งค่า ดังนี้

  • มูลค่า: ระบุยอดการใช้จ่ายหรือยอดซื้อ ในแต่ละขั้นที่สมาชิกต้องทำเพื่อให้ได้รับคะแนน

  • วันเริ่มต้น: กำหนดวันที่เริ่มต้นที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะเริ่มทำงาน

  • วันสิ้นสุด: กำหนดวันที่สิ้นสุดของระยะเวลาที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะทำงาน

  • คะแนน: ระบุจำนวนคะแนนที่จะมอบให้สมาชิกในแต่ละขั้น

l3-1

     

      ตัวอย่าง สมาชิกหรือลูกค้าจะได้คะแนน ตามเงื่อนไขที่ตั้งค่ายอดซื้อสินค้า เช่น 

  • ยอดซื้อ 100 บาท ได้รับ 10 คะแนน 
  • ยอดซื้อ 500 บาท ได้รับ 70 คะแนน
  • ยอดซื้อ 10,000 บาท ได้รับ 1,000 คะแนน

สมาชิกหรือลูกค้ามียอดซื้อ 600 บาท จะได้คะแนน 10 คะแนน จากยอดซื้อ 100 บาท และอีก 70 คะแนน จากยอดซื้อ 500 บาท รวมเป็น 10+70 เท่ากับ 80 คะแนน หรือสมาชิกมียอดซื้อ 400 บาท คะแนนที่ได้ก็จะเท่ากับ 10 คะแนน เพราะยอดซื้อ 400 บาท ยังไม่ถึงยอดซื้อขั้นถัดไป

 

3. Ratio

      รูปแบบการคำนวณคะแนนแบบ Ratio เป็นการคำนวณคะแนนตาม "อัตราส่วน" ระหว่างยอดใช้จ่ายและคะแนนที่จะได้รับ โดยเป็นการแปลงยอดใช้จ่ายเป็นคะแนนตามสัดส่วนที่กำหนด มีรายละเอียดการตั้งค่า ดังนี้

  • มูลค่า: ระบุยอดการใช้จ่ายหรือยอดซื้อ ที่เป็นฐานสำหรับการคำนวณคะแนน

  • วันเริ่มต้น: กำหนดวันที่เริ่มต้นที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะเริ่มทำงาน

  • วันสิ้นสุด: กำหนดวันที่สิ้นสุดของระยะเวลาที่โปรแกรมการสะสมคะแนนจะทำงาน

  • คะแนน: กำหนดจำนวนคะแนนที่จะได้รับตามยอดการใช้จ่ายหรือยอดซื้อที่กำหนด

l4-1

      

      ตัวอย่าง กำหนด Ratio ให้เป็น ในยอดซื้อทุกๆ 100 บาท สมาชิกหรือลูกค้าจะได้รับ 50 คะแนน เช่น สมาชิกมียอดซื้อ 200 บาท จะได้รับคะแนน 50x2 หรือ 100 คะแนน

 


สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้